หลายคนคงเคยมีประสบการณ์ในการพูดคุยกับ
เจ้าของร้านขายสีทาบ้านพูดถึงสีชนิด นั้น ชนิดนี้
มีฟิล์มสีซึ่งคุณสมบัติต่างๆ นานา อย่างเช่น สามารถป้องกันน้ำ
มีความยืดหยุ่นสามารถปิดทับรอยแตกร้าวตามผนังได้
หรือแม้กระทั่งสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ แน่นอนครับ
ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่มักจะเชื่อเจ้าของร้านและเลือกสีที่มีคุณสมบัติที่ตัวเอง
ต้องการกลับไปใช้งาน แต่ก็คงสงสัยในใจกันอยู่ว่า ฟิล์มสี คืออะไร
อยู่ตรงไหนในกระป๋องสี แต่ก็เก็บคำถามนั้นไว้ในใจ ผมพูดถูกใช่ไหมครับ
เมื่อเป็นเช่นนั้นลองไปดูกันหน่อยไหมครับว่า ฟิล์มสีคืออะไร
และอยู่ตรงไหนในกระป๋อง
ฟิล์มสี ก็คือ ชั้นความหนาของเนื้อสี ที่เราทาลงไปบนผนังอาคารนั่นเอง
หลายคนอาจจะยังนึกภาพไม่ออกหากไม่เคยทาสีด้วยตัวเอง
ถ้าเป็นเช่นนั้นลองค่อยๆ ทำความเข้าใจตามผมไปเรื่อยๆ นะครับ
โดยปกติแล้วเนื้อสีในกระป๋องหนึ่งๆ จะประกอบด้วย
• ผงสี (Pigment) หรือที่เรียกกันว่าเม็ดสี ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้เราเห็นเนื้อสี เป็นสีต่างๆ
• สารแต่งเติม (Additive)
เป็นสารที่ทำให้สีมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปตามแต่ความต้องการใช้งาน
ซึ่งสารแต่งเติมนี้เองที่ทำให้สีมีราคาถูกแพงแตกต่างกัน
• ตัวเชื่อมประสาน (Binder) ทำหน้าที่ในการประสานส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ทั้งผงสีและสารแต่งเติม
นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในกระป๋องสีแต่ต้องนำมาผสมกับสีเพื่อให้สีพร้อมสำหรับการใช้งาน นั่นก็คือ
• ตัวทำละลาย (Solvent) ซึ่งหากเป็นสีน้ำอะคลีลิค ก็จะใช้ตัวทำละลายที่เป็นน้ำ หากเป็นสีน้ำมันก็จะใช้ทินเนอร์เป็นตัวทำละลาย
สาเหตุที่ทำให้เราต้องผสมสีเข้ากับตัวทำละลาย
ก็เพื่อทำให้เนื้อสีลดความหนืด ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น
ขั้นตอนในการผสมตัวทำละลายถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญขั้นตอนหนึ่ง
โดยสีแต่ละชนิดอาจใช้ตัวทำละลายที่แตกต่างกันไป
ต้องผสมในอัตราส่วนที่ระบุมาตามข้างกระป๋องเท่านั้น
เพราะว่าหากเราไม่ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ผนังอาคารของเราก็ไม่ได้กับการปกป้องจากฟิล์มสีอย่างเต็มประสิทธิภาพ
เมื่อเราทาสีลงพื้นผิววัสดุ เราจะได้ฟิล์มสีเปียก
จากนั้นตัวทำละลายก็จะค่อยๆ ระเหยออกไปเรื่อย ทำให้โมเลกุลของทั้ง ผงสี
สารแต่งเติม และตัวเชื่อมประสานจะเริ่มเกาะเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ
และเมื่อตัวทำละลายระเหยออกไปจนหมด ก็จะเกิดเป็นชั้นฟิล์มสีบางๆ
เคลือบทับอยู่บนพื้นผิวของวัสดุที่ถูกทานั่นเอง
อย่างที่บอกไว้แล้วในข้างต้นว่าสิ่งที่สำคัญที่ทำให้สีนั้นมีคุณภาพและราคา
แตกต่างกันก็คือคุณสมบัติของสารแต่งเติมซึ่งทำให้ฟิล์มสีมีคุณภาพแตกต่างกัน
ออกไปตั้งแต่ สารแต่งเติมที่ทำให้เม็ดสีสามารถทนน้ำได้มากขึ้น
สารที่ทำให้ฟิล์มสีมีความยืดหยุ่นมากขึ้นจนสามารถปิดทับรอยแตกร้าวเล็กๆ
ตามผนังได้
หรือทำให้ฟิล์มสีมีพื้นผิวเรียบมันจนฝุ่นจับไม่ได้หรือที่เราเรียกฟิล์มสี
ที่สามารถทำความสะอาดตัวเองได้นั่งเอง
นอกจากนั้นก็ยังมีสารซึ่งทำให้ฟิล์มสีมีคุณสมบัติในการสะท้องแสงอาทิตย์ช่วย
ลดความร้อนของผนังอาคาร
และล่าสุดถึงขั้นได้มีการใช้สารแต่งเติมที่มีส่วนผสมของสารไททาเนียมทำให้
ฟิล์มสีสามารถสะท้อนรังสี UV
และเพิ่มความทนทานที่ยาวนานจนเรานึกไม่ถึงกันเลยทีเดียวครับ
ดังนั้นคราวหน้าก่อนไปซื้อสีอย่าลืมตรวจดูความต้องการใช้งานของเราว่าต้อง
การสีที่มีคุณสมบัติแบบไหนก่อนนะครับ
จะได้ไปบอกความต้องการของเรากับเจ้าของร้านได้อย่างถูกต้องและเข้าใจ
ขอให้มีความสุขกับการทาสีบ้านใหม่นะครับ
ที่มา : baanlaesuan.com
Wednesday, September 26, 2012
ฟิล์มสี คืออะไร อยู่ตรงไหนในกระป๋องสี
6:10 PM
seoooooo
No comments
0 comments:
Post a Comment