บ้านของคุณเก่าได้อย่างไร?
หลายคนที่เคยสังเกตและเกิดความสงสัยว่า
บ้านของตัวเอง ทำไมถึงแลดูเก่าและโทรมอย่างรวดเร็ว?
สาเหตุที่บ้านของคุณแลดูเก่าและโทรมก็มาจากผนังบ้านของคุณมีสีซีดลง
เมื่อลองมองเปรียบเทียบกับบ้านใหม่ๆ ก็จะเห็นได้ชัดเจน
สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้สีทาผนังบ้านซีดลงก็คือ รังสียูวี (UV: Ultraviolet)
รังสียูวีที่มาพร้อมกับแสงอาทิตย์จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทาเคมีของสีทาผนัง
ทำให้ผนังกลายไปเป็นสีเหลืองซีดๆ
ไม่สดเหมือนกับบ้านที่เพิ่งทาสีเสร็จใหม่ๆ นั่นเอง
โดยปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นสีทาภายนอกหรือ
สีทาภายใน เมื่อใช้งานไปสักระยะสีก็จะเริ่มซีดลง
และโดยเฉลี่ยเมื่อใช้งานไปประมาณ 5-10 ปี
ชั้นของฟิล์มสีก็จะเริ่มเสื่อมสภาพ และไม่สามารถจะปกป้องพื้นผิวอีกต่อไป
และเมื่อรังสียูวีสามารถทะลุผ่านชั้นของฟิล์มสีเข้าไปได้
รังสียูวีก็ยังสามารถทำให้พื้นผิววัสดุของบ้านเกือบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น
พื้นผิวไม้ พื้นผิวยิปซัม พื้นผิวคอนกรีต
ให้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเกิดการเสื่อมสภาพของพื้นผิว
เปราะและผุพังได้เร็วขึ้น
ดังนั้นสีจึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องบ้านของเราให้ยืนยาว
จากความรุดหน้าของอุตสาหกรรมสีทาผนัง
อาคารทำให้มีการคิดค้นสี อย่างเช่น สี SuperShield Titanium
ซึ่งมีการใช้สารแต่งเติมที่มีส่วนประกอบของไททาเนียมทำให้ชั้นของฟิล์มสีที่
ทาลงบนผนังอาคารมีคุณสมบัติที่ดีขึ้น มีความเรียบกว่าสีทาผนังทั่วไป
สามารถสะท้อนแสงยูวีที่มาพร้อมกับแสงอาทิตย์ได้มากขึ้น
ทำให้สีไม่ซีดเหลืองง่ายๆ และชั้นฟิล์มสี SuperShield Titanium
มีอายุยาวนานมากกว่า 15 ปี
ก็จะทำให้เป็นการยืดอายุของพื้นผิวผนังอาคารออกไปด้วยเช่นกัน
หลายคนมักไม่ตระหนักถึงความสำคัญของสี
เจ้าของบ้านหลายคนอาจสังเกตเห็นสีทาผนังบ้านของตัวเองเสื่อมสภาพและลอกร่อน
ในบางส่วน แต่ก็ยังคงปล่อยทิ้งไว้เช่นนั้น เพราะคิดว่า รอให้เป็นเยอะๆ
ก่อนแล้วจึงค่อยทำการทาสีบ้านใหม่ทั้งหลังในคราวเดียว
ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด
เพราะโดยปกติแล้วผนังปูนฉาบที่ก่อสร้างได้มาตรฐานจะมีอายุประมาณ 15-20
ปีหรือน้อยกว่านั้น หลังจากนั้นก็จะเสื่อมสภาพร่วนเป็นผงไม่เกาะตัว
และทำให้การรั่วซึมของน้ำฝนเข้าไปภายในบ้านได้
แน่นอนครับว่าหากไม่มีสีทาผนังคอยทำหน้าที่ป้องกันรังสียูวีแล้ว
อายุของปูนฉาบก็จะสั้นลง
ทำให้มีโอกาสที่จะต้องสกัดปูนฉาบผนังเก่าออกและฉาบผนังใหม่เร็วยิ่งขึ้น
ในมุมกลับกันหากเราเลือกใช้สีที่มีคุณภาพดีขึ้น
แม้ว่าราคาจะสูงขึ้นไปอีกสักหน่อย
ก็จะสามารถช่วยยืดระยะเวลาเสื่อมของผนังปูนฉาบออกไปได้หลายปี
ฟังผมเล่ามาสักพักหลายคนคงอยากรู้แล้ว
ใช่ไหมครับว่า
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าสีทาผนังบ้านของเราเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง?
วิธีการตรวจสอบว่าถึงเวลาที่ต้องเตรียมตัวทาสีผนังบ้านใหม่ก็สามารถทำได้โดย
ใช้ ฝ่ามือลูบไปบนผนังเบาๆ
หากพบว่ามีฝุ่นสีติดมือออกมาด้วยก็แสดงว่าถึงเวลาเตรียมตัวเลือกสีใหม่ให้
กับบ้านได้แล้วละครับ
แม้ว่าขั้นตอนวิธีการทาสีจะไม่ใช่
เรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนอะไรนัก
แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่าการทาสีก็คือความยุ่งยากในการเตรียมพื้นผิวของผนังให้
เรียบร้อยก่อนลงมือทาสี เพื่อให้ได้ผนังที่เรียบเนียน
สำหรับผนังปูนใหม่คงไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยากซับซ้อนเท่าใดนัก
แต่สำหรับผนังปูนเก่าซึ่งมีสีเดิมเกาะอยู่
การขัดลอกสีเก่าออกให้หมดเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและใช้เวลานานพอสมควรเลยที
เดียว
แต่ที่ยากที่สุดคงเป็นเรื่องของการเคลื่อนย้ายสิ่งของเพื่อเตรียมพื้นที่
สำหรับการทำงาน
เพราะบ้านที่เราเข้าอยู่พักอาศัยแล้วจะมีสิ่งของเครื่องใช้มากมาย
หากไม่มีการเคลื่อนย้ายก็จะทำให้การทาสีทำได้ด้วยความยากลำบาก
จากประสบการณ์เปลี่ยนสีบ้านครั้งที่
ผ่านมา
ทำให้รู้ว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องวางแผนกันให้ดีว่าในขณะที่กำลังเปลี่ยน
สีบ้านใหม่จะใช้ชีวิตกันอย่างไร ใช้ชีวิตในบ้านอย่างไร กินอย่างไร
นอนอย่างไร
เพราะสิ่งของเกือบทุกอย่างจะถูกเคลื่อนย้ายหรือไม่ก็ถูกคลุมด้วยพลาสติก
เพื่อไม่ให้เปื้อนสี ดังนั้นคุณภาพของสีเป็นเรื่องที่จำเป็นเป็นอย่างยิ่ง
เพราะคงจะเป็นการดีไม่น้อยเลยนะครับถ้าเราไม่ต้องเปลี่ยนสีบ้านกันบ่อยๆ
ขอบคุณที่มา : baanlaesuan.com/เรื่อง: ห้องสมุทร
0 comments:
Post a Comment